วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ดิสนีย์แลนด์

 ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland)
                                       
   

                เป็นสวนสนุกและสถานตากอากาศในเครือวอลท์ ดิสนีย์ ปัจจุบันนั้นมีสวนสนุกและสถานตากอากาศในเครือดิสนีย์ (Walt Disney Parks and Resorts) ตั้งอยู่ 5 แห่งทั่วโลก

     •ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท (Disneyland Resort) เริ่มสร้างโดยวอลท์ ดิสนีย์ ในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 (ค.ศ.1955)ได้เปิดสวนสนุกแห่งแรกขึ้น และ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2544 (ค.ศ.2001) ได้เปิดสวนสนุกอีกแห่งขึ้น คือDisney California Adventure สวนสนุกทั้งสองแห่งตั้งอยู่ที่ เมือง Anaheimมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

     • วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ท (Walt Disney World Resort) เปิดปี พ.ศ.2514 (ค.ศ. 1971) ที่ริมทะเลสาบบัวนา วิสตา เมือง Orlando มลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีสวนสนุกแบบดิสนีย์แลนด์ (Magic Kingdom) และโรงแรมอีกสามแห่ง ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนสวนสนุกเป็น 4 แห่ง (Magic Kingdom, Epcot, Disney-MGM studios และDisney’s Animal Kingdom), สวนน้ำอีก 2 แห่ง, สนามกอล์ฟ และโรงแรมอีกมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในโลก

     • โตเกียว ดิสนีย์ รีสอร์ท (Tokyo Disney Resort) เปิดปี พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982) ที่จังหวัดจิบะ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงแรกมีแต่สวนสนุกโตเกียว ดิสนีย์แลนด์ เมื่อ พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) ได้เปิดบริการสวนสนุกอีกแห่ง คือ โตเกียว ดิสนีย์ซี

     • ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ปารีส (Disneyland Resort Paris) เปิดปี ยพ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) เรียกอีกชื่อว่า ยูโรดิสนีย์ (Euro Disney) และปี พ.ศ.2545 (ค.ศ. 2002) ได้เปิดสวนสนุกอีกแห่ง ชื่อ วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ

     • ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท (Hong Kong Disneyland Resort) เปิดในวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005)ที่ฮ่องกง





            ในฐานะของคนที่เปลี่ยนชีวิตวัยเด็กให้กลายเป็นสินค้าเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน วอลท์ ดิสนีย์ จึงมักย้อนนึกถึงความกลัว และความผาสุกในวัยต้นๆ ของตนเอง เขาก็เหมือนกับเด็กว้าเหว่จำนวนมาก ที่มักจะฆ่าเวลาด้วยการสร้างเพื่อนทางจินตนาการด้วยปากกากับกระดาษ ตอนที่ครอบครัวย้ายไปชิคาโก เขาก็พบทางออกสำหรับความสามารถเฉพาะตัวที่ปรากฏชัด ตอนที่เขากลายเป็นบรรณาธิการฝ่ายศิลป์ระดับจูเนียร์ของหนังสือพิมพ์โรงเรียนไฮสกูลแมคคินลีย์

            วอลท์เริ่มตระหนักว่า ของเล่นเล็กๆน้อยๆของตนเอง มีค่ามากกว่าแค่ความคิดจินตนาการแปลกๆ เขานำเอาภาพการ์ตูนล้อเลียนตลกขบขันไปแลกกับการได้ตัดผมฟรี ระหว่างนั้นเอง สหรัฐอเมริกาก็เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1โดยอยู่ข้างฝ่ายพันธมิตร วอลท์ ซึ่งอายุ16 ปี อาสาสมัครเป็นพลขับให้แก่หน่อยรถพยาบาลกาชาดอเมริกา ตอนที่เขาไปถึงฝรั่งเศส สงครามก็ยุติแล้ว เขาก็เลยขับรถบรรทุกมากกว่ารถพยาบาล แต่เมื่อใดที่เขาเข้าประจำหน้าที่ตามปกติ เขาก็จะวาดการ์ตูน สร้างความสนุกสนานให้แก่เพื่อนฝูงเป็นประจำ

            ปี 1920 เขาเซ็นสัญญารับจ้างวาดภาพให้แก่บริษัทผลิตภาพยนตร์โฆษณาชื่อ แคนซัส ซิตี้ ฟิลม์ แอ็ด คัมปะนี ได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 40 ดอลลาร์ โดยบริษัทนี้ จะโฆษณาเป็นภาพยนตร์การ์ตูนสั้นความยาว 60 วินาที แพร่ภาพตามโรงภาพยนตร์ วอลท์ ดิสนีย์ จึงได้เรียนรู้วิธีใข้เครื่องมือพื้นฐานสำหรับการสร้างภาพการ์ตูน กล้องแบบสต็อปแอ็คชั่น ซึ่งจับภาพวาดต่อกันเป็นชุด ทำให้ดูแล้วเหมือนเป็นภาพเคลื่อนไหวได้

            เขาทำงานใกล้ชิดกับศิลปินอีกคนชื่อ อัพบี ไอเวอร์คส์ ทั้งที่เพสแมน-รูบิน กับแคนซัส ซิตี้ ฟิล์ม ปี 1922 ศิลปินทั้งคู่ก็ช่วยกันตั้งบริษัทของตนเองชื่อ ลาฟ-โอ-แกรม เพื่อผลิตภาพยนตร์การ์ตูนสั้น แต่ก็ประสบความล้มเหลว

            ต่อจากนั้น วอลท์ ดิสนีย์จึงเริ่มสำรวจการพลิกแพลงทางการค้า เพื่อนำมาใช้กับความคิดบางส่วนของตนเอง เขาคิดว่าตนเองได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นต้นตำรับให้แก่วงการการ์ตูน ตอนที่นำเอาคนจริงๆมาสร้างเป็นการ์ตูนขึ้น ถึงแม้เทคนิคนี้จะมีการใช้กันมาก่อน แต่ภาพยนตร์ของดิสนีย์กับไอเวอร์คส์ ก็นำไปสู่การยอมรับภาพยนตร์การ์ตูนในลักษณะการค้าเป็นครั้งแรก พอปี 1923เขาก็เดินทางจากแคนซัส ซิตี้ ไปยังสถานที่ซึ่งเคยได้ยินมาว่า ผู้ผลิตภาพยนตร์หนุ่มๆ สามารถหานายทุนมาสนับสนุนโครงการของตนได้ จุดหมายปลายทางที่เขามุ่งไปก็คือ ฮอลลีวู้ด


            เมื่อเดินทางไปถึงลอสแองเจลีส วอลท์ ดิสนีย์ก็ไปพักอยู่กับโรเบิร์ตผู้เป็นลุง จากนั้นก็ตระเวณไปตามสตูดิโอต่างๆ แล้วก็ได้ค้นพบสัจธรรมอย่างรวดเร็วว่า ผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่ใช่จะคว้ามาจากข้างถนนกันได้ง่ายๆ เมื่อไม่มีงาน ดิสนีย์ก็ทำแบบที่เคยทำในเมืองแคนซัส ซิตี้ ภายใต้สภาวการณ์เดียวกัน กล่าวคือ เขาเริ่มเป็นผู้ประกอบการด้วยตนเอง “เมื่อคุณหางานทำไม่ได้ คุณก็ต้องเริ่มธุรกิจของตัวเอง”

            วอลท์ ดิสนีย์มีสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้ 2 อย่างด้วยกันคือ รอย พี่ชายของเขาซึ่งเป็นนักธุรกิจสมองเปรื่อง พำนักอยู่ในลอสแองเจลีส และกลับมาแข็งแรงดีดังเดิมหลังหายจากวัณโรค ส่วนสินทรัพย์อย่างที่ 2 ก็คือ การผจญภัยกับอลิซ ดังนั้นวอลท์ กับรอย จึงเปิดสตูดิโอภาพเคลื่อนไหวชื่อ ดิสนีย์ บราเธอร์ในโรงรถของลุงโรเบิร์ต และสามาถชายให้กับ วิงเลอร์ ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์

            เมื่อมีการแพร่ภาพการ์ตูนชุดเรื่องอลิซออกไป อัพบี ไอเวอร์คส์ก็เข้าร่วมกิจการที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ โดยในตอนแรกเข้ามาร่วมในฐานะนักเขียนการ์ตูน ที่ได้รับการว่าจ้างตามสัญญา หลังจากเสร็จสิ้นภาพยนตร์การ์ตูนการผจญภัยของอลิซแล้ว วอลท์  ดิสนีย์ ก็สมรสกับลิเลียน บาวนด์ ทำงานด้านลงหมึกในสตูดิโอ ส่วนวิงเลอร์ ผู้จัดจำหน่ายของเขา ก็แต่งงานเกือบๆจะพร้อมกัน จากนั้นเธอก็มอบการควบคุมธุรกิจจัดจำหน่ายให้กับสามีของเธอ มินซ์ ซึ่งก็ร่วมทำงานกับดิสนีย์ สร้างตัวการ์ตูนกระต่ายที่จับขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ เหมือนอย่างเจ้าแมวเฟลิกซ์ วอลท์สเก็ตช์ภาพกระต่ายตัวหนึ่งขึ้นมา ซึ่งมีชื่อว่า “ออสวอลด์ เจ้ากระต่ายโชคดี”

            ถึงแม้ออสวอลด์จะกลายเป็นจุดเริ่มภาพยนตร์การ์ตูนชุดสั้น ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดี แต่ความสำเร็จของดิสนีย์กลับมีช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะความโง่เขลาของเขา ทำให้เขาตกลงเซ็นสัญญาผลิตการ์ตูน แต่บริษัทของมินซ์กับยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ จะเป็นเจ้าของตัวการ์ตูนนั้น เรียกได้ว่าประสบการณ์ครั้งนี้สร้างความโกรธแค้นให้แก่ วอลท์ ดิสนีย์ เป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดตั้งปณิธานว่า ไม่มีวันยอมทำงานให้ใครอีกแล้ว
 ภายหลังเรื่องราวกับมินซ์เป็นที่ประจักษ์ซึ้งแก่ใจแล้ว ทั้งวอลท์และลิเลียนผู้ภรรยาก็ขึ้นรถไฟเดินทางกลับแคลิฟอร์เนียด้วยความรู้สึกกระปลกกระเปลี้ยสิ้นแรง และตระหนักดีว่าสตูดิโอของเขาต้องปิดกิจการรวดเร็วเป็นแน่ ถ้าเขาไม่สามารถสร้างตัวการ์ตูนใหม่ขึ้นมาได้ ความคิดของเขาหันเหไปหาหนูอย่างรวดเร็ว เพราะเขามักจะเจอพวกหนูในตะกร้าทิ้งผงใต้ในห้องทำงาน

            ครั้นมาถึงแคลิฟอร์เนีย เขาและ อัพบี ไอเวอร์คส์ ก็ช่วยกันสร้างตัวการ์ตูนที่มีความน่ารักน่าเอ็นดู และมีลักษณะเหมือนออสวอลด์แต่มีหูเหมือนหนู ทั้งคู่ตกลงใจตั้งชื่อเจ้าตัวนี้ว่า “มิคกี้ เมาส์”
                     

            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น